งานสำคัญที่บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องทำคือการสำรวจและขุดเจาะบริเวณที่เป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมซึ่งภายหลังการขุดเจาะแต่ละครั้งจะต้องทำการระบุชั้นหินที่เป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมใต้ดินเพื่อวางแผนการผลิตปิโตรเลียมให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยบริษัทสำรวจพลังงานจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยวิเคราะห์คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของชั้นหินในความลึกระดับต่างๆ
และแสดงค่าออกมาในรูปแบบกราฟ เมื่อได้กราฟเหล่านี้แล้วนักวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยาของบริษัทจะอ่านกราฟและประเมินว่าบริเวณใดหรือชั้นหินใดบ้างที่เป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม


โดยปกติแล้ว กระบวนการอ่านประเมินเพื่อระบุหาชั้นหินที่กักเก็บปิโตรเลียมเป็นงานที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและระยะเวลาในกระประเมินตำแหน่งที่มีศักยภาพสำหรับการผลิตปิโตรเลียมเนื่องจากหลุมที่ต้องทำการขุดเจาะมีจำนวนหลายพันหลุม อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ต้องใช้เวลาหลายวันในการอ่านและประเมินกราฟของแต่ละหลุม
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ลักษณะทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันในแต่แหล่ง
การขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนาญในการระบุตำแหน่งกักเก็บปิโตรเลียม หรือความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่แตกต่างกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน


VISAI จึงได้พัฒนา AI ที่วิเคราะห์คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของชั้นหินในความลึกระดับต่างๆ จนได้เป็นโซลูชัน
AI เพื่อระบุตำแหน่งที่เป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม
ภายใต้การกำกับดูแลจากทั้งผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา เพื่อช่วยทุ่นแรงผู้เชี่ยวชาญในการทำงานดังกล่าว

การทำงานของ AI ช่วยประเมินแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมสำหรับธุรกิจพลังงาน

แต่เดิมนักวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยาจะได้รับกราฟข้อมูลของชั้นหิน
(รูปด้านซ้าย) ที่แสดงข้อมูล เช่น รังสีแกมมาหรือความต้านทานไฟฟ้า
ซึ่งจะไม่ได้บ่งชี้โดยตรงว่าชั้นหินดังกล่าวกักเก็บปิโตรเลียมอยู่หรือไม่
จากนั้นนักวิทยาศาสตร์จะใช้ความเชี่ยวชาญในการอ่านและประเมินออกมาเพื่อบ่งชี้ให้ทราบว่าชั้นหินใดกักเก็บปิโตรเลียมอยู่
ซึ่งเดิมทีแล้วกระบวนการอ่านและประเมินหลุมหนึ่งแห่งอาศัยระยะเวลากว่า 2 วัน ทางทีมผู้เชี่ยวชาญจาก <a href="https://visai.ai">VISAI</a> จึงได้พัฒนาโซลูชัน
AI ขึ้นมาซึ่งผ่านการเรียนรู้จากชุดข้อมูลที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาร่วมออกแบบ โซลูชัน AI ดังกล่าวจะเรียนรู้รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างกราฟข้อมูลชั้นหิน
(ซ้ายมือ) และกราฟที่สามารถบ่งชี้ให้ทราบถึงปิโตรเลียมที่กักเก็บอยู่ภายใน (ขวามือ) ทำให้เมื่อนำไปใช้งานจริง
AI ดังกล่าวจะสามารถอ่านและประเมินกราฟที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
พร้อมแปลงออกมาให้อยู่ในรูปแบบกราฟที่สามารถบ่งชี้ชั้นหินที่กักเก็บพลังงานปิโตรเลียมโดยอัตโนมัติได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีด้วยความแม่นยำที่ใกล้เคียงกับนักผู้เชี่ยวชาญถึง
90%

ประโยชน์ของ
AI
ช่วยประเมินแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมสำหรับธุรกิจพลังงาน

1. ช่วยให้บริษัทสามารถประเมินหลุมขุดเจาะจำนวนมากได้ในระยะเวลาอันสั้น
จากเดิมหนึ่งหลุมขุดเจาะมนุษย์ต้องใช้ระยะเวลากว่า 2 วันในการประเมิน แต่ AI ใช้เวลาเพียงแค่
2 นาที
ซึ่งเมื่อนำระยะเวลาที่ประหยัดลงไปมาคำนวณแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่าหลาย 10 ล้านบาทเลยทีเดียว

2. ประเมินผลแม่นยำถึง
90% ลดความไม่สม่ำเสมอของผลการประเมินจากมนุษย์&nbsp;จากเดิมที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเป็นผู้อ่านและประเมินกราฟ ซึ่งแต่ละคนอาจจะระบุผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน
เนื่องจากมีประสบการณ์ไม่เท่ากัน ก็ให้ AI ที่เรียนรู้ข้อมูลปริมาณมหาศาลเป็นผู้ช่วยประเมินให้แต่เพียงผู้เดียวแล้วให้มนุษย์เป็นผู้ตรวจสอบเท่านั้น

3. ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยามีเวลาทำงานอย่างอื่นเพิ่มเติม
เพื่อเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้ในระยะยาว

จากโซลูชันนี้จะเห็นได้เลยว่า ปัจจุบัน AI
นำไปพัฒนาและช่วยงานธุรกิจได้หลากหลายจริงๆ
แม้กระทั่งในธุรกิจพลังงานก็ตาม โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้งบประมาณสูงอย่างการขุดเจาะเพื่อหาแหล่งพลังงาน การประเมินอย่างแม่นยำและรวดเร็วก่อนดำเนินการขุดเจาะนั้นมีค่ามหาศาล
เพราะจะช่วยให้บริษัทไม่ต้องเสี่ยงที่จะเสียงบประมาณและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
ทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทอีกด้วย
หากองค์กรใดสนใจพัฒนาโซลูชันเฉพาะทางเพื่อเสริมศักยภาพให้กับองค์กร
ติดต่อเราได้ที่<a href="https://visai.ai/ai-solutions">บริการ AI Solutions </a>

AI ช่วยประเมินแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมสำหรับธุรกิจพลังงาน