ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทุกประเทศต่างมุ่งเน้นพัฒนาเนื่องจากความสามารถในการทำงานแทนมนุษย์ ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง อีกทั้งยังช่วยให้มนุษย์เข้าถึงองค์ความรู้ขนาดใหญ่ได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถเช่นนี้ของ AI ประเทศต่างๆ จึงมองเห็นโอกาส และมีการใช้ AI ในการพัฒนาธุรกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโต สอดรับการเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ (Knowledge-Based Economy) ที่เชื่อว่า ทรัพยากรความรู้เป็นตัวกำหนดความเป็นเลิศของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ แตกต่างจากในอดีตที่ปัจจัยชี้วัดความเจริญของประเทศคือ ความสามารถด้านเกษตรกรรม และการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ประเทศต่างๆ จึงลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมากมาย&nbsp;&nbsp;

ในกรณีของประเทศไทย เราได้เริ่มก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550-2554 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการทำให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมีความสมดุลและมีภูมิคุ้มกัน ผ่านการพัฒนาทุนทางสังคม ทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุนทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างทุนทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยจึงเดินหน้าเข้าสู่การสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ (Knowledge-Based Economy)   โดยในการจะพัฒนาประเทศให้มีระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้อย่างยั่งยืนได้ จำเป็นต้องพัฒนาปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นสังคมที่เอื้ออำนวยให้ประชากรสามารถสร้างสรรค์ ดัดแปลง และใช้ความรู้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจได้ ปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวได้แก่&nbsp;

1. ระบบนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 

มีการสนับสนุนและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทุกระดับตั้งแต่หน่วยการผลิตจนถึงหน่วยวิจัยและพัฒนาอย่างทั่วทั้งประเทศ เช่น สร้างความร่วมมือกันระหว่างองค์กร สถาบันการศึกษาที่ผลิตความรู้ ภาครัฐหรือหน่วยงานท้องถิ่นที่รวบรวม จัดหา และเผยแพร่ความรู้ให้เหมาะสม และประชาชนผู้นำความรู้นั้นไปสร้างสรรค์หรือต่อยอดในขั้นต่อไป

2. ประชากรที่มีการศึกษาและแรงงานที่มีความรู้ (skilled workforce)

สร้างประชากรที่มีความรู้และแรงงานที่มีทักษะเฉพาะ เช่น การสนับสนุนการศึกษาในด้าน IT คอมพิวเตอร์ การวิจัยตลาด การผลิตสื่อสร้างสรรค์ เนื่องจากประชากรเช่นนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิต ใช้งาน และเผยแพร่ความรู้สู่สังคมและนำมาสู่คุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ&nbsp;

3. เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม

เตรียมพร้อมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT และสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเผยแพร่ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประชาชนและองค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศได้ทุกที่ทุกเวลา เพิ่มโอกาสในการนำความรู้ไปใช้งาน ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ&nbsp;

4. สภาพแวดล้อมและสถาบันทางเศรษฐกิจ 

สร้างระเบียบช่วยดูแลและกำกับที่เปิดกว้างทางความคิด กระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ รวมถึงนโยบายที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือ แลกเปลี่ยน และสร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ระหว่างภาครัฐและเอกชน&nbsp;

บทบาทของ AI ในการเสริมสร้างให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้&nbsp;

ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมมีการนำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้มากมาย ตั้งแต่การใช้เพื่อช่วยผ่อนแรงมนุษย์ การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมาก การพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการและสินค้า การใช้วางแผนธุรกิจ หรือการวินิจฉัยด้านสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี Generative AI ที่เข้ามาช่วยทำงานสร้างสรรค์ให้มนุษย์ได้ ก่อให้เกิดผลผลิตใหม่ๆ มากมาย AI จึงเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบใหม่ กล่าวคือ&nbsp;

1. AI สามารถช่วยทำงานประจำที่ต้องทำซ้ำๆ อย่างอัตโนมัติแทนมนุษย์ได้ 

ทำให้มนุษย์มีเวลามากขึ้นในการฝึกฝนพัฒนาตนเอง หรือไปทำงานที่ต้องการทักษะขั้นสูงมากขึ้น&nbsp;

2. AI ช่วยทำให้มนุษย์เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 

จัดการข้อมูลจากที่มีอยู่มากมาย เช่น การให้ AI อ่านบทความ พร้อมสรุปใจความสำคัญออกมาให้ ทำให้มนุษย์ไม่จำเป็นต้องอ่านข้อมูลทั้งหมดแต่ยังคงเข้าใจเนื้อหาได้&nbsp;&nbsp;

3. AI ช่วยผลิตความคิดใหม่ๆ 

โดย AI สามารถเข้าถึงองค์ความรู้มหาศาล จากนั้นประมวลผลเพื่อสร้างไอเดียใหม่ๆ ให้มนุษย์ที่มีองค์ความรู้ในหัวอย่างจำกัด&nbsp;&nbsp;

4. AI ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ 

โดย AI จะช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ โดยการใช้ข้อมูลหลากหลายประเภทจำนวนมากในการประมวลผลและเสนอข้อมูลที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น&nbsp;

ข้อจำกัดของภาคธุรกิจที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง AI&nbsp; &nbsp;

การใช้งาน AI ภายในประเทศไทยนั้นยังมีข้อจำกัด เนื่องจากคนทำงานในภาคธุรกิจ (workforce) ส่วนใหญ่ยังทำงานโดยอาศัย spreadsheet ในการจัดการกับข้อมูล และขาดทักษะในการใช้งาน AI เพื่อช่วยเหลือในการทำงาน นอกจากนี้ บริษัทจำนวนมากยังขาดแคลนบุคลากรด้านเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโมเดล AI โปรแกรม และแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อลดช่องว่างดังกล่าว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญฝั่งปัญญาประดิษฐ์ (AI Experts) จำเป็นต้องสร้างเครื่องมือที่ใช้งานง่ายให้กลุ่มคนทำงานสามารถเริ่มต้นใช้งานได้อย่างสะดวก ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการส่งเสริมให้กลุ่มคนทำงานมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI และพัฒนาทักษะในการใช้งานโมเดล AI ไปควบคู่กัน&nbsp;

ด้วยเป้าหมายในการช่วยแก้ไขข้อจำกัดของการนำ AI เข้ามาใช้งานระหว่างกลุ่มคน 2 กลุ่มนี้ และทำให้การใช้งาน AI เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย วิสัย เอไอ (VISAI) จึงได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) สถาบันการศึกษาผู้วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และ SCB 10X สถาบันการเงินภาคธุรกิจ ในการระดมทุนเพื่อผลักดันบริการปัญญาประดิษฐ์ แบบครบวงจร ประกอบด้วย 

วิสัยหวังว่าในอนาคตการนำ AI เข้ามาใช้งานจะกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจที่มีภูมิคุ้มกันและความมั่นคง พร้อมทั้งสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างยั่งยืนด้วยองค์ความรู้ และทำให้ประเทศไทยพร้อมสู่การยืนอยู่แถวหน้าในฐานะหนึ่งในประเทศที่เป็นผู้นำที่มีศักยภาพอันเกิดจากองค์ความรู้ที่มี AI ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง

การใช้ AI ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยองค์ความรู้