“สิ่งที่ Vocalog ช่วยได้เลยนะครับ หนึ่ง คือลดระยะเวลาในการทำงานครับ ตัดเรื่องการเปิดวิดีโอดูย้อนหลัง แล้วก็สรุปอีกทีได้เลย พอตัดตรงนี้ได้แล้ว Vocalog ยังเป็นสมองที่สองให้น้อง ลูกค้าพูดมา น้องไม่ต้องจำเอง เพราะระบบมี transcription ออกมาให้ จากเดิมที่น้องต้องมี 1 ชั่วโมงในการสรุปประชุม ถ้าวันนี้ต้องมีประชุม 4 นัด เขาต้องใช้เวลาสรุป 4 ชั่วโมง พอมี Vocalog เข้ามานะครับ 4 ชั่วโมงนี้จะหายไป เหลือแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น” คุณ KAPAPULL, Project Manager บริษัทไอที&nbsp;

คุณ KAPAPULL เป็น&nbsp;Project Manager ของบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการพัฒนาโครงการ IT กับองค์กรภาครัฐและเอกชน ในแต่ละวัน คุณ KAPAPULL จะมีนัดการประชุมหลากหลายรูปแบบ ทั้งกับคณะกรรมการตรวจสอบโครงการ พาร์ตเนอร์ ลูกค้า Vendor และทีมภายในบริษัท ทำให้คุณ KAPAPULL&nbsp;ต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดในแต่ละวันไปกับการประชุม&nbsp;

“โดยทั่วไปแล้ว การประชุมจะอยู่ที่ 3 ชั่วโมงต่อวันเป็นพื้นฐาน แต่ในหนึ่งวันเราไม่ได้ดำเนินโครงการเพียงโครงการเดียว แต่มี 3-4 โครงการพร้อมกัน นั่นหมายความว่า ถ้าเฟสไหนที่เริ่มรับ Requirement พร้อมกัน หรือเข้าสู่เฟสที่ต้องมาพูดคุยรายละเอียด บางครั้งการประชุมจะยาวไปถึง 10 ชั่วโมงเลยก็มี” คุณ KAPAPULL เล่า&nbsp;

เมื่อเวลาในการประชุมเบียดเวลาทำรายงาน&nbsp;

เมื่อตารางการประชุมแน่นเช่นนี้ คุณ KAPAPULL จึงได้ให้ Project Coordinator มาช่วยรับหน้าที่ในการบันทึกการประชุม แต่ด้วยการประชุมที่มีหลายนัดติดๆ กัน พอถึงเวลาลงมือทำรายงานจริง ก็มักลืมประเด็นสำคัญหรือรายละเอียดที่จะต้องสื่อสารไป&nbsp;

“ถ้าน้อง (Project Coordinator) มีเวลาถอดเนื้อหาการประชุมประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แต่ในความเป็นจริง พอน้องประชุมนัดแรกเสร็จ อีก 10 นาที น้องต้องเข้าอีกประชุมหนึ่งแล้ว พักกินข้าว เข้าประชุมตอนบ่ายอีก 2 ชั่วโมง แล้วน้องจะเอาเวลาไหนไปทำสรุปการประชุม พอจะกลับมาทำรายงานจริง ก็ลืมไปแล้ว เพราะจดก็ไม่ทัน จำอะไรก็ไม่ได้” คุณ KAPAPULL เล่า&nbsp;

ข้อจำกัดของการบันทึกไฟล์เสียง&nbsp;

นอกจากจะให้ทีมงานมาช่วยจดการประชุมเบื้องต้นให้แล้ว แต่ในการทำงานจริงข้อมูลที่ได้จากทีมงานก็จะมีความผิดพลาดบ้าง หรือได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน บางทีให้ทีมงาน 3 คนมาช่วยกันจด แต่ก็เป็นการสิ้นเปลืองเวลาการทำงานมาก คุณ KAPAPULL จึงมองหาเครื่องมืออัดเสียงต่างๆ เพื่อมาช่วยให้เก็บข้อมูลให้ได้ครบถ้วนที่สุด&nbsp;

“ในการพัฒนาฟีเจอร์อะไรบางอย่าง เราก็อยากได้ข้อมูลมากที่สุด เพื่อใช้ในการตัดสินใจ หรือเวลามีปัญหาก็ย้อนกลับมาดูได้ ดังนั้นเราจึงอยากได้เครื่องมือที่ช่วยสรุปการประชุมได้ ทีนี้ก็มีข้อจำกัดเรื่อง Host เขาไม่ให้สิทธิ์ในการบันทึกเสียง หรือบางทีเราขอ Host ไป แต่ก็ไม่สามารถดาวน์โหลดวิดีโอได้ เราเลยพยายามหาว่าโปรแกรมไหนบ้างที่สามารถถอดเสียงได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องขอ Host” คุณ KAPAPULL เล่า&nbsp;

AI ไม่สามารถแยกเสียงผู้พูดในที่ประชุมเวลาพูดพร้อมกันได้&nbsp;&nbsp;

คุณ KAPAPULL เริ่มค้นหาโปรแกรมถอดเสียงเป็นข้อความจากใน Gemini และ ChatGPT จนได้รายชื่อโปรแกรม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นโปรแกรมของต่างประเทศ เมื่อทดลองใช้จนครบทุกตัว ก็พบว่าข้อความที่ถอดออกมาส่วนใหญ่ยังไม่มีความแม่นยำพอจะนำมาใช้งานต่อได้&nbsp; เนื่องจากในระหว่างการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมจะมีการพูดแทรกกันบ้าง หรือมีจังหวะที่พูดพร้อมกันบ่อยครั้ง ซึ่ง AI ในโปรแกรมถอดเสียงจะยังไม่สามารถแยกเสียงและถอดความจังหวะนี้ออกมาอย่างแม่นยำได้&nbsp;

“เราหวังจะได้ความถูกต้องที่ 80% แต่หลังจากลองมาแล้วหลายโปรแกรม ได้จริงไม่ถึง&nbsp;20% ที่เราจะสามารถแปลงข้อมูลจากไฟล์เสียงออกมาได้ แล้วภายใต้ 20% นั้น มีเนื้อหาใน Meeting ที่ใช้ได้จริงแค่ 5-10% ซึ่งน้อยมากๆ &nbsp;

“และสิ่งที่ผมเจอจากโปรแกรมอื่นก็คือ พอโปรแกรมจับเสียงของผู้พูดไม่ได้ แทนที่ AI จะระบุมาเลยว่าจับเสียงไม่ได้ AI กลับไปเดาบริบทเหล่านั้น แล้วพยายามถอดความออกมา จนกลายเป็นศัพท์ใหม่ ประโยคใหม่&nbsp; คีย์เวิร์ดเปลี่ยนหมด สุดท้ายก็ไม่ตอบโจทย์” คุณ KAPAPULL เล่า&nbsp;

ให้ Vocalog แยกเสียงผู้พูด แล้วส่งต่อให้ LLM ทำรายงาน&nbsp;

เมื่อคุณ KAPAPULL เริ่มทดลองใช้ Vocalog&nbsp;ที่สามารถถอดข้อความ จำแนกเสียงผู้พูด และสรุปเป็นรายงานการประชุมเบื้องต้นให้ได้ จึงเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานใหม่ทันที  โดยนำ Output ที่ได้จาก Vocalog มาให้ Gemini 2.5 Pro เรียบเรียงเนื้อหาต่อจนได้รายงานการประชุมทีสมบูรณ์แบบ&nbsp;

“ผมรู้สึกว่า Vocalog ถอดข้อความได้ตรงมากๆ ประมาณ 70-80% ซึ่งตรงกับความต้องการของผม&nbsp;ผมเลยเอามือถือมาวางอัดเสียง เปิดคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่เปิดโปรแกรม Vocalog ทิ้งไว้ รอให้ระบบถอดข้อความออกมา และสรุปเนื้อหาด้วย โดยใช้เทมเพลตสรุปประชุม&nbsp;จากนั้นนำ Output ทั้งหมดส่งไปให้ Gemini 2.5 Pro แล้วส่งคำสั่งพรอมต์ ให้ AI หาเนื้อหาที่ดีมาเชื่อมกัน หรือเนื้อหาตรงไหนที่หายก็ให้ช่วยชี้จุดมา&nbsp; ปรากฏว่าสิ่งที่ได้คือสรุปรายงานการประชุมที่เพอร์เฟกต์มาก แม่นยำที่ 90-95% เรียกว่าเป็น Best Practice สำหรับผมเลย” คุณ KAPAPULL เล่า&nbsp;

Vocalog เป็น “สมองที่สอง” ของคนทำรายงานประชุม&nbsp;

คุณ KAPAPUL ได้ให้ Project Coordinator ใช้ Vocalog เพื่อช่วยจดบันทึกการประชุมเช่นกัน และรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม&nbsp;

“สิ่งที่ Vocalog ช่วยได้เลยนะครับ หนึ่ง คือลดระยะเวลาในการทำงานครับ ตัดเรื่องการเปิดวิดีโอดูย้อนหลัง แล้วก็สรุปอีกทีได้เลย พอตัดตรงนี้ได้แล้ว Vocalog ยังเป็นสมองที่สองให้น้อง ลูกค้าพูดมา น้องไม่ต้องจำเอง เพราะระบบมี transcription ออกมาให้ จากเดิมที่น้องต้องมี 1 ชั่วโมงในการสรุปประชุม ถ้าวันนี้ต้องมีประชุม 4 นัด เขาต้องใช้เวลาสรุป 4 ชั่วโมง พอมี Vocalog เข้ามานะครับ 4 ชั่วโมงนี้จะหายไป เหลือแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น”&nbsp;คุณ KAPAPULL สรุปทิ้งท้าย&nbsp;

Project Manager ทำรายงานประชุม